กลุ่มค่อวาริจ
โดย อ. มุนีร มุฮัมหมัด
ค่อวาริจ เป็นกลุ่มแนวความคิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในอิสลาม เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสงครามซิฟฟีน (ฮ.ศ.37/ค.ศ. 657 ) ระหว่างค่อลีฟะฮ์อาลี อิบนิ อบีฏอลิบ และท่านมุอาวิยะฮ์ อิบนิ อบีซุฟยาน ระหว่างที่ทหารของมุอาวิยะฮ์จากดินแดนชามชูคัมภีร์อัลกุรอานบนปลายหอก โดยเรียกร้องให้กองทัพของคอลีฟะฮ์อาลี ยอมรับการตัดสินด้วยอัลกุรอาน กลุ่มค่อวาริจเห็นด้วยกับความเห็นนี้ แต่ค่อลีฟะฮ์อาลีมีความเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของกองทัพท่าน มุอาวิยะฮ์เป็นเพียงกลอุบาย เนื่องจากสภาพของกองทัพชามอยู่ในสภาพที่เพลี่ยงพล้ำ ท่านจึงมีบัญชาไปยังกำลังทหารของท่านให้ทำสงครามต่อไป แต่ทว่ากลุ่มค่อวาริจปฏิเสธที่จะทำสงคราม และบังคับให้ท่านยอมรับการตัดด้วยคัมภีร์อัลกุรอานโดยพูดขู่ว่า
“ท่านจะต้องตอบรับคำตัดสินของคัมภีร์ของอัลลอฮ์ เมื่อท่านถูกเรียกร้องให้ปฏิบัติเช่นนั้น มิเช่นนั้นแล้ว เราจะผลักดันให้ท่านถูกกลุ่มชนลงโทษ”
ค่อลีฟะฮ์อาลี ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้ห้ามพวกเขา แต่พวกเขาปฏิเสธ คอลีฟะฮ์จึงยอมรับการตัดสินด้วยอัลกุรอาน อันเป็นการตอบสนองต่อความประสงค์ของกลุ่มค่อวาริจ และเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสามัคคีของบรรดามุสลิม แล้วค่อลีฟะฮ์อาลีได้มอบหมายให้อับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาสเป็นผู้เจรจา แต่พวกค่อวาริจไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่า อับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาสมาจากพวกพ้องของท่าน เขาเข้าข้างท่าน แต่จงส่งอบูมูซา อัลอัชอะรีย์เป็นผู้เจรจา เพราะเขาไม่เข้าร่วมทำสงคราม และได้ตักเตือนพวกเรา คอลีฟะฮ์อาลีก็ยอมรับคำเสนอของพวกเขา
เมื่อผู้ตัดสินทั้งสองได้ร่วมประชุมกันคือ อบูมูซา อัลอัชอะรีย์ ผู้แทนของคอลีฟะฮ์อาลี และอัมร์ อิบนุลอาศ ผู้แทนของท่านมุอาวิยะฮ์ ทั้งสองตกลงกันว่าจะเลื่อนการตัดสินไปยังเดือนรอมฎอน คอลีฟะฮ์อาลีจึงถอนกองทัพจากตำบลซิฟฟีน (ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติสในประเทศซีเรีย) ไปยังเมืองกูฟะฮ์ แต่แล้วพวกค่อวาริจได้กลับคำพูด และประกาศไม่ยอมรับการตัดสิน (ตะห์กีม) ด้วยอัลกุรอานระหว่างค่อลีฟะฮ์อาลีและท่านมุอาวิยะฮ์ พวกเขามีความเห็นว่าการยอมรับการตัดสินด้วยอัลกุรอาน พวกเขาได้ข่มขู่ค่อลีฟะฮ์อาลีที่ยอมรับและพอใจการตัดสินด้วยคัมภีร์อัลกุรอาน พวกเขาได้แยกตัวออกมารวมตัวกัน ณ ตำบลหะรูรออ์ ชานเมืองกูฟะฮ์มีจำนวน 12,000 คน ด้วยการที่พวกเขาแยกตัวออกจากฝ่ายของค่อลีฟะฮ์อาลีจึงได้ชื่อว่า “ค่อวาริจ”
เมื่อพวกเขาแยกตัวออกไปค่อลีฟะฮ์อาลีจึงส่งอับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาสไปหาพวกเขา และกำชับว่า “ท่านจงอย่ารีบตอบสนองหรือขัดแย้งกับพวกเขาจนกว่าฉันจะไปหาพวกเขา”
แต่พวกค่อวาริจก็พยายามเจรจากับอับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาส จนกระทั่งคอลีฟะฮ์อาลีได้ออกไปหาพวกเขา จึงมีการเจรจากัน ค่อลีฟะฮ์อาลีจึงขอให้พวกเขาเข้าไปในเมืองกูฟะฮ์ เมื่อพวกเขาเข้าไปในเมืองจึงนำกรณีเกี่ยวกับการตัดสินด้วยอัลกุรอานมาพูดอีก เมื่อค่อลีฟะฮ์อาลีตกลงใจส่งอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ เป็นตัวแทนในการตัดสิน ชัรอะฮ์ อิบนิลบะเราะฮ์ อัฏฏอดีย์ และฮัรกูส อิบนิซุเฮร อัซซะอฺดีย์ จากพวกค่อวาริจได้ไปหาค่อลีฟะฮ์อาลีและกล่าวว่า “ท่านจงขออภัยในความผิดของท่านและจงเลิกล้มการเป็นตุลาการตัดสิน แล้วจงพาเราออกไปเพื่อทำสงคราม” ค่อลีฟะฮ์อาลีกล่าวว่า “เราได้เขียนสัญญาไว้กับพวกเขาแล้ว” ฮัรกูสกล่าวว่า “นั่นเป็นความผิด สมควรที่ท่านจะเตาบะฮ์ตัวในความผิดดังกล่าว” ค่อลีฟะฮ์อาลีได้ชี้แจงเหตุผลให้พวกเขาทราบ แต่พวกเขาไม่ยอมรับฟัง ชัรอะฮ์ กล่าวว่า “ถ้าหากว่าท่านไม่ยุติการตัดสิน ฉันก็จะฆ่าท่านโดยหวังความโปรดปรานจากอัลลอฮ์” ค่อลีฟะฮ์อาลีกล่าวว่า “ความหายนะจงประสบกับท่าน เหมือนกับว่าฉันจะถูกท่านฆ่า”
แล้วทั้งสองก็ออกไปโดยประกาศว่า
لَا حُكْمَ إِلَّا اللهُ “”
“ไม่มีการตัดสินนอกจากอัลลอฮ์”
วันหนึ่งค่อลีฟะฮ์อาลี กล่าวคำปราศรัย พวกค่อวาริจก็ตะโกนถ้อยคำข้างต้น ค่อลีฟะฮ์อาลีจึงกล่าวว่า
اللهُ أَكْبَرُ كَلِمَةُ حَقٍّ أُرِيْدُ بِهَا بَاطِلٌ “”
“อัลลอฮ์ทรงยิ่งใหญ่ คำพูดจริงแต่ต้องการความเท็จ” (เจตนาดีแต่ประสงค์ร้าย)
และในที่สุดค่อลีฟะฮ์อาลีก็ถูกฆ่าตายโดยค่อวาริจชื่อ อับดุรเราะห์มาน อิบนิมุลญิม
สมรภูมินะร่อวาน
หลังจากทีพวกค่อวาริจคัดค้านความเห็นของค่อลีฟะฮ์อาลี พวกเขาแยกตัวออกจากกลุ่มชนมุสลิม พวกเขาได้ฆ่าอับดุลลอฮ์ อิบนิคอบบาบ อิบนิลอะร็อต และได้คว้านท้องสาวใช้ของท่าน ค่อลีฟะฮ์จึงให้พวกเขาส่งฆาตกรมาให้ แต่พวกเขาปฏิเสธพร้อมกับกล่าวว่า “พวกเรา เป็นผู้ฆ่าเขา เราทั้งหมดได้รับอนุญาตให้ฆ่าพวกท่านและฆ่าพวกเขา”
ค่อลีฟะฮ์อาลีจึงตักเตือนพวกเขาและชี้ให้เห็นถึงความไม่ถูกต้อง แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะรับฟัง จึงทำให้ค่อลีฟะฮ์อาลีไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากการทำสงครามและปราบปรามพวกค่อวาริจ ทำให้พวกค่อวาริจส่วนมากถูกสังหาร ไม่มีผู้ใดมีชีวิตรอดนอกจากเพียง 7-8 คน ดังที่นักประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้ โดยที่พวกเขาได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ในหัวเมืองต่างๆ ทำให้มีการปลูกฝังหลักความเชื่อของกลุ่มค่อวาริจในบางประเทศอิสลาม เช่น โอมาน ลิเบีย ฯลฯ
หลักความเชื่อของกลุ่มค่อวาริจ
ในเบื้องแรกนั้นหลักความเชื่อของกลุ่มค่อวาริจไม่มีความแตกต่างจากหลักการศรัทธาของชาวอะฮ์ลุซซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์ ความเชื่อที่แตกต่างของพวกเขากับอะฮ์ลุซซุนนะฮ์มีเพียงปัญหาเกี่ยวกับการตัดสินด้วยอัลกุรอาน (อัตตะห์กีม) เท่านั้น หลังจากที่แนวค่อวาริจแพร่หลายออกไปจึงมีการคิดทำสิ่งอุตริและความเชื่อที่ออกนอกแนวทางอิสลามที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นหลักความเชื่อขั้นพื้นฐานของกลุ่มค่อวาริจ ที่สำคัญได้แก่
1- ไม่ยอมรับผู้ปกครองที่ไม่ดำเนินตามหลักความเชื่อและแนวศาสนาของกลุ่มค่อวาริจ
2- ผู้ที่ทำบาปใหญ่ตกเป็นการฟิร
3- ไม่ยอมรับการเป็นค่อลีฟะฮ์ของท่านอุสมานและท่านอาลี
4- ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องมาจากเผ่ากุเรช ทุกคนที่มีความซื่อสัตย์ ความยุติธรรมสามารถเป็นผู้ปกครองได้
5- ไม่มีการลงอาญาผู้ทำซินาด้วยการขว้าง
6- ผู้ที่มีประจำเดือนจะต้องละหมาดใช้
7- ค่อวาริจบางกลุ่มไม่ยอมรับบางซูเราะฮ์ของอัลกุรอาน
8- ที่มีหลักการไม่ตรงกับหลักการของค่อวาริจ อนุญาตให้ปราบปรามพวกเขา คุกคามชีวิต ยึดทรัพย์สิน และทำลายเกียรติยศของเขาได้