﷽
กลุ่มอัลกอรอมิเฎาะฮ์
โดย อ. มุนีร มุฮัมหมัด
กอรอมิเฎาะฮ์เป็นขบวนการทางศาสนาแนวชีอะฮ์ควบคู่ไปกับการดำเนินงานทางการเมืองและทางสังคม แม้ว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับขบวนการกอรอมิเฎาะฮ์จะมีความคลุ่มเครือ แต่สิ่งที่ทราบกันก็คือ กอรอมิเฎาะฮ์เป็นกลุ่มศาสนาที่มีรากฐานมาจากชีอะฮ์อิสมาอีลียะฮ์ บุคคลสำคัญทิ่เชิญชวนไปสู่กลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์คือ ฮัมดาน อิบนิลอัชอัช มีฉายานามว่า “กุรมุฏ” ปรากฏตัวในอิรัค ที่ได้รับฉายานามเช่นนี้เนื่องจากว่า เขามีร่างเตี้ย เขาเกิดในโคเซสถาน ในเมืองอะฮ์วาซ ประเทศอิหร่านปัจจุบัน แล้วเขาเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองกูฟะฮ์ ประเทศอิรัค
ขบวนการกอรอมิเฎาะฮ์อาศัยกองทหารลับเพื่อแผ่อิทธิพล โดยแสดงออกด้วยการสนับสนุนอะฮ์ลุลบัยต์ และอ้างถึงมุฮัมมัด บุตรของอิมามอิสมาอีล บุตรของอิมามญะอ์ฟัร อัซซอดิก แต่ความเป็นจริง กลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์เป็นกลุ่มออกนอกแนวทางอิสลาม ซึ่งอนุญาตให้กระทำการละเมิดบัญญัติศาสนา ทำลายจริยธรรม และมีเป้าหมายล้มล้างอาณาจักรอิสลาม
ขบวนการกอรอมิเฎาะฮ์มีความเข้มแข็งภายใต้การนำของอบูสะอีด อัลญิบาอีย์ ตาย ฮ.ศ. 285 ค.ศ 899 โดยมีฐานกำลังอยู่ในบะห์เรน
สภาพทางสังคมของกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์
กลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์แบ่งระดับบุคคลในสังคมออกเป็น 4 ระดับคือ
1 – ระดับอิควานุซซ่อฟา หรือพี่น้องที่ดี ได้แก่ ผู้ที่มีอายุระหว่าง 15 ปี ถึง30 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีความพร้อมที่จะรับหลักความเชื่อของกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์
2 – ระดับอิควานอัคยารฟุฎอลาฮ์ หรือพี่น้องที่ดีมีเกียรติ ได้แก่ผู้ที่มีอายุระหว่าง 30 – 40 ปี เป็นตำแหน่งผู้นำทางการเมือง ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มพี่น้องที่ดีและให้การช่วยเหลือพวกเขา
3 – ระดับผู้ใหญ่อายุระหว่าง 40 -50 ปี มีความรู้ในศาสนบัญญัติตามความเข้าใจแบบกุรมุฎ เกี่ยวกับคำสั่งใช้ คำสั่งห้าม สนับสนุนการเผยแพร่แนวกอรอมิเฎาะฮ์ ตอบโต้ต่อฝ่ายตรงข้าม
4 – ระดับผู้อวุโส หรือผู้ใกลัชิดอัลลอฮ์ ได้แก่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่อยู่ในระดับนี้จะมีความรู้ทางในหรือรู้แจ้ง มีความรู้ที่เรียกว่า “อิลมุลละดุนนีย์” “กัชฟุลละดุนนีย์” หมายถึงความรู้แจ้งหรือการเปิดเผย ทำให้เขาเห็นสภาพของวันกิยามะฮ์ การฟื้นคืนชีพ การร่วมชุมนุม การสอบสวน ตราชู
หลักความเชื่อของกอรอมิเฎาะฮ์และวิธีการเผยแพร่
เมื่อพวกกอรอมิเฎาะฮ์เริ่มบทบาททำให้ทราบถึงหลักความเชื่อของพวกเขาซึ่งมีดังนี้
1- พวกเขาอำพรางเจตนาที่แท้จริง โดยเรียกร้องไปสู่การเชิดชูอะฮ์ลุลบัยต์ ความจริงพวกเขาต้องการดำรงขบวนการของพวกเขา
2 – ใช้นโยบายการครอบครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินร่วมกัน เช่นเดียวกับระบบคอมมิวนิสต์ บุคคลไม่มีสิทธิในการครอบครองกรรมสิทธิ์
3- การกิจกรรมกับสตรีร่วมกัน ไมว่าหญิงผู้นั้นจะเป็นภรรยา แม่ พี่สาว หรือน้องสาว หรือลูกสาวใคร โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความรักใคร่ ดังเช่นผู้นับถือศาสนาของพวกเปอร์เซียโบราณ
4 – ยกเลิกบัญญัติอิสลามขั้นพื้นฐานเช่น การถือศีลอด การละหมาด และฟัรฎูอื่นๆ
5 – ใช้วิธีการรุนแรงเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด
6- ไม่เชื่อในการฟื้นชีพใหม่ และการลงโทษในโลกหน้า สวรรค์ตามทัศนะของพวกเขาคือ ความผาสุกในโลกดุนยานี้ การลงโทษคือการที่บุคคลคร่ำเคร่งอยู่กับการละหมาด การถือศีลอด การประกอบพิธีฮัจญ์ และการญิฮาด
7 – เผยแพร่แนวความเชื่อในหมู่ชาวบ้าน และผู้ด้อยความรู้
8 – อิมามมีความบริสุทธิ์จากความผิด มีฐานะเท่าเทียมกับนบีและมีความสามารถในการตีความบัญญัติ เช่น
- การถือศีลอด หมายถึง การไม่เปิดเผยความลับ
- การฟื้นชีพ หมายถึง การชี้นำสู่แนวความคิดของกอรอมิเฎาะฮ์
- นบี หมายถึง บุคคลที่ได้รับพลังแห่งพระเจ้า
- อัลกุรอาน หมายถึง การแสดงความรู้ การที่เรียกอัลกุรอานว่าเป็นกะลามุ้ลลอฮ์ เป็นเพียงการเปรียบเทียบ
9 – พระเจ้ามี 2 องค์
10 – ผู้ที่ฆ่าอิมามอาลี และอิมามหุเซน เป็นผู้อธรรม
11 – ผู้ที่ยึดมั่นในศาสนาและจริยธรรมเป็นการหลงผิด
ที่มาของหลักความเชื่อของกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์
หลักความเชื่อของกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์มีรากฐานมาจาก
1 – ปรัชญาวัตถุนิยม ซึ่งมีแนวความคิดของผู้จ้องทำลายอิสลามจากพวกเปอร์เซียสอดแทรกไว้ด้วย
2 – หลักความเชื่อของกลุ่มค่อวาริจ กลุ่มการเมือง และกลุ่มความเชื่อทางวัตถุ
3 – แนวความคิดของศาสนาโซโรแอสเตอร์
4 – ยกเลิกหลักนิติบัญญัติ อนุญาตให้ทำในสิ่งต้องห้าม(หะรอม) การมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในทรัพย์สิน ผู้หญิงและทรัพย์สิน
5 – รวบรวมกลุ่มชน เพื่อสนับสนุนแนวความเชื่อของกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์
การเผยแพร่ของกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์
ขบวนการกอรอมิเฎาะฮ์มีความรุ่งเรืองประมาณ 1ศตวรรษ โดยปรากฎขึ้นครั้งแรกทางตอนใต้ของประเทศเปอร์เซีย แล้วแพร่ขยายเข้าไปในเมืองกูฟะฮ์ บัศเราะฮ์ ในอิรัค อะห์ซาอ์ ในซาอุดิอารเบีย บะห์เรน เยเมน ดินแดน ทางตอนใต้ของคาบสมุทรอาหรับ ตอนกลางของทะเลทรายโอมาน คุรอซาน เข้าไปยังเมืองมักกะฮ์ เข้ายึดเมืองดามัสกัส ฮิมส์ สะละมียะฮ์ ในประเทศซีเรีย แล้วบุกเข้าไปยังกรุงไคโร ประเทศอิยิปต์
การสังหารหมู่ในมัสยิดหะรอมและการขโมยหินดำ
เป็นที่ทราบกันดีว่า กลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์ปฏิเสธศาสนาอิสลาม เฉพาะอย่างยิ่งการประกอบพิธีฮัจย์ โดยถือว่าเป็นพิธีกรรมของชนสมัยญาฮิลียะฮ์และพวกบูชาเจว็ด พวกกอรอมิเฎาะฮ์จึงฉวยโอกาสปล้นสดมภ์บรรดาฮุจญาจที่เดินทางมาจากอิรัค พวกเขามีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนการทำฮัจญ์จากกะอ์บะฮ์ไปยังเมืองฮิจร์ ซึ่งสร้างโดยอบูสะอีด อัลญินาบีย์ เนื่องจากวิหารในเมืองฮิจร์ไม่มีหินดำ จึงจำเป็นจะต้องขโมยไปจากกะอ์บะฮ์ในเมืองมักกะฮ์
ในฤดูฮัจญ์ปี ฮ.ศ.317 วันตัรวิยะฮ์(วันที่ 8 ซุลฮิจญะฮ์) บรรดาฮุจญาจต่างมาร่วมชุมนุมกัน พวกกอรอมิเฎาะฮ์ได้บุกเข้ายังเมืองมักกะฮ์ แล้วปล้นทรัพย์สินของบรรดาฮุจญาจและฆ่าพวกขาประมาณ 30,000 คน อบูฏอเฮร หัวหน้าของพวกกอรอมิเฎาะฮ์ นั่งอยู่ที่ประตูกะอ์บะฮ์ได้สั่งให้ฝังคนตายในบ่อน้ำซัมซัม และสถานที่ในมัสยิดหะรอม พร้อมกับใช้ให้ถอดประตู กะอ์บะฮ์ ดึงผ้าคลุมออก ถอดรางทอง และแกะหินดำออกมา แล้วนำไปไว้ยังเมืองฮิจร์ เป็นเวลาถึง 22 ปี จนกระทั่งคอลีฟะฮ์ของอาณาจักรฟาฏิมียะฮ์ชีอะฮ์ มีคำสั่งให้นำหินดำกลับคืนมาใส่ไว้ที่กะอ์บะฮ์ดังเดิม
หลังจากนั้นกลุ่มกอรอมิเฎาะฮ์ก็เริ่มเสื่อม และหลอมรวมเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ที่จ้องทำลายอิสลามในที่สุด