บทเรียนวิชาการอิสลามศูนย์อิสลามศึกษามสัยิดดารสิสลาม
ประจาวันเสาร์ที่ 11 พ.ค 2567
บทเรียนวิชาฟิกฮ์ (หมวดอิบาดาต)
อาจารย์ดาวุด รอมาน
เรื่อง : ข้อตัดสินของการขจัดนายิส (สิ่งสกปรก)
เป็นเรื่องถูกร้องขอให้มุสลิมต้องสะอาดจากหะดัษเมื่อต้องการละหมาด เช่นเดียวกันนี้ยังจะต้องมีความสะอาดด้านร่างกาย เสื้อผ้า สถานที่จากสิ่งสกปรก อัลลอฮ์กล่าวว่า :
((และจงทำความสะอาดเสื้อผ้าของท่านเถิด ))
ท่านนบีซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ใช้สตรีให้ล้างเลือดประจำเดือนออกจากเสื้อผ้าของ พวกนาง เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงถูกร้องขอให้ทำเรื่องนี้ นั่นคือการขจัดสิ่งสกปรก เพื่อนำเสนอข้อตัดสินที่สำคัญ และหวังว่าพี่น้องมุสลิมผู้อ่านจะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้
บรรดานักฟุกอฮาอ์ (นิติศาสตร์อิสลาม) ได้จัดเรียงเรื่องนี้ไว้เป็นบทเฉพาะกาลมีชื่อเรียกว่า “บทว่าด้วยการขจัดนายิส” คือ การทาความสะอาดตัวนายิสที่เปรอะเปื้อนสิ่งที่สะอาดไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ภาชนะ ที่นอน สถานที่และสิ่งทำนองนี้
- สิ่งที่ใช้ขจัดนายิส
สิ่งที่เป็นพื้นฐานในการใช้ขจัดนายิสคือน้ำ ถือเป็นพื้นฐานในการทาความสะอาด เพราะ อัลลอฮ์ได้ให้วิธีการไว้ว่า: ُ
((เราได้ให้น้าลงมาจากฟ้าเพื่อให้พวกเจ้าใช้มันทำความสะอาด ))
- นายิสที่วายิบต้องขจัดออก
- หากว่าเป็นนายิสที่อยู่บนพื้นบนผนังบนอ่างและบนหิน : อย่างนี้ให้ทำความสะอาดด้วย การล้างเพียงครั้งเดียวก็พอเมื่อตัวนายิสหมดไป หมายความว่า ให้ราดน้ำหนึ่งครั้ง เพราะคำสั่งใช้ ของท่านนบีซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่ให้รดนำ้ลงบนปัสสาวะของอาหรับชนบทที่มาปัสสาวะ ในมัสยิด เช่นเดียวกันเมื่อนายิสนั้นถูกราดรดด้วยน้ำฝนและน้ำไหลผ่าน หากว่าตัวนายิสหมดไป ด้วยการรดน้ำหรือฝนตกมาชำระล้างหรือน้ำไหลผ่านถือว่าพอเพียงแล้วในการทำความสะอาด
- หากเป็นนายิสที่ไม่ได้อยู่บนพื้นและที่เหมือนกันนี้ : หากเป็นนายิสที่มาจากสุนัขหรือหมู และที่เกิดมาจากมันทั้งสอง การทำความสะอาดด้วยการล้างเจ็ดครั้ง ด้วยคำกล่าวของท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า:
“เมื่สุนัขมาเลียภาชนะของคนใดในพวกท่าน จงล้างมันเจ็ดครั้ง หนึ่งในนั้นให้เป็นน้ำดิน”
[บันทึกโดยมุสลิมและท่านอื่นๆ ]
นี่เป็นฮุก่มที่ครอบคลุมทั้งภาชนะและอื่นๆ เช่น เสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์
- หากเป็นนายิสที่ไม่ใช่สุนัขและสุกร เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ เลือดและทำนองนี้ ให้ล้างด้วยน้ำ โดยให้ขูด และขยี้จนออกโดยไม่ทิ้งตัวและสีของมัน
- สิ่งที่ถูกล้างมีสามประเภทคือ:-
ประเภทที่หนึ่ง : สามารถขยี้มันออกได้ เช่น เสื้อผ้า จำเป็นต้องขยี้
ประเภทที่สอง : ไม่สามารถขยี้ออกได้ แต่สามารถกลับด้านมันได้ เช่น หนังสัตว์และสิ่งทำนองนี้ จำเป็นต้องกลับด้านมัน
ประเภทที่สาม : ไม่สามารถขยี้และกลับด้านมันได้ จำเป็นต้องตีหรือทับมันโดยวางสิ่งหนักๆ ทับไปจนน้ำจะออกไป
- หากที่เปื้อนนายิสมันซ่อนในตามร่างกาย เสื้อผ้าหรือจุดเล็ก ๆ จำเป็น(วายิบ)ต้องล้างตรง จุดที่คาดว่ามีนายิสอยู่ จนมั่นใจว่ามันหมดไป หากไม่รู้ว่ามันอยู่จุดไหน วายิบต้องล้างทั้งหมด
- พอเพียงในการทำความสะอาดปัสสาวะของเด็กทารกที่ยังมิได้กินอาหารอื่น(นอกจากนม) โดยการรดน้า ด้วยหะดีษของอุมมุก็อยส์
“นางได้พาลูกชายทารกที่ยังมิได้กินอาหารไปหาท่านรอซูลุลลอฮ์ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านนบีจับนั้งบนตักของท่าน เด็กได้ปัสสาวะลงบนเสื้อของท่าน ท่านจึงใช้ให้เอาน้ำมารดโดยที่ ไม่ได้ล้าง”
หะดีษมุตตะฟกัอลัยฮ์(บุคอรีและมุสลิม)
- หากเป็นเด็กที่กินอาหารอื่นแล้วเนื่องจากเขามีความต้องการและเลือกเองปัสสาวะของเขา เหมือนกับปัสสาวะของผู้ใหญ่ เช่นเดียวกันปัสสาวะของเด็กทารกหญิงเหมือนกับปัสสาวะของ ผู้ใหญ่ ทุกสภาพนี้ให้ล้างเหมือนกับล้างนายิสทั่วไป
- นายิสมีสามชนิด คือ:-
1-นายิสชนิดหนัก คือนายิสของสุนัขและทำนองนี้
2-น่ายิสมุค้อฟฟ่าฟะห์(ชนิดเบา)คือ นายิสของเด็กทารกชายที่ยังไม่กินอาหาร
3-นายิสที่อยู่ระหว่างกลาง คือนายิสทั้งหมดที่เหลือ
จำเป็น (วายิบ) ที่เราจะต้องรู้จักว่าอะไรสะอาดอะไรสกปรกจากมูลสัตว์และปัสสาวะของสัตว์ สัตว์ที่อนุญาติให้กินเนื้อของมันได้ ปัสสาวะและมูลของมันถือว่าสะอาด เช่น อูฐ วัว แพะและ ในทำนองนี้
เพราะว่าท่านนบีซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมใช้ชาวอุร่อนียีน(ที่มามะดีนะห์แล้วเจ็บป่วย) ให้ออกไปหาอูฐที่เป็นซะกาตแล้วให้พวกเขาดื่มปัสสาวะและนมของมัน หะดีษมุตตะฟักอลัยฮ์ (บุคอรีและมุสลิม)
หะดีษบ่งชี้ว่าปัสสาวะของมันสะอาด หากเป็นนายิสก็จะไม่อนุญาตให้รักษาด้วยการดื่มมัน หากมีคนกล่าวว่า : ที่อนุญาติเพราะอยู่ภาวะจำเป็นบังคับ
เราจะตอบว่า : ท่านนบีซอลลัลลอฮัอะลัยฮิวะซัลลัมไมไ่ด้ใช้พวกเขาให้ล้างรอยของมันเมื่อ พวกเขาต้องการละหมาด
และในหะดีษซอฮีห์มีรายงานว่าท่านนบีซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเคยละหมาดในคอก แพะและยังใช้ให้ละหมาดในนั้นซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องปัสสาวะในนั้นแน่นอน
ท่านชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะห์กล่าวว่า:
“พื้นฐานของมูลสัตว์ถือว่าสะอาด นอกจากมีที่ยกเว้นไว้…
- น้ำลายของสัตว์ที่กินเนื้อได้ถือว่าสะอาด นั่นคือสิ่งที่เหลือจากอาหารและเครื่องดื่มของมัน
- น้ำลายของแมวถือว่าสะอาด เพราะหะดีษของอบีกอ้ตาดะห์ในเรื่องแมว ท่านนบีกล่าวว่า:
(( แท้จริงมันไม่เป็นนายิส เพราะมันจะวนเวียนอยู่รอบพวกท่าน))
[บันทึกโดยอิหม่ามติรมิซีย์และท่านอื่นๆว่าเป็นหะดีษซอฮีห์]
ดังกล่าวเป็นการเปรียบเปรยว่าเหมือนทาสที่คอยรับใช้อยู่ในบ้านพวกเขาจะวนเวียนรอบ คนในครอบครัวเพื่อคอยรับใช้และไม่สามารถที่จะระมัดระวังได้ดังกล่าวนี้เป็นการขจัดความยากลำบาก
นักปราชญ์บางท่านยังนับรวมสิ่งอื่นๆ เข้าอยู่ในเรื่องแมวทั้งที่มีรูปร่างแตกต่างกัน เช่นนก และตัวอื่นๆ น้ำลายของมันสะอาดเหมือนกับน้ำลายของแมวโดยมีจุดที่เหมือนกันคือ การเดินวนเวียน
- สัตว์อื่นนอกจากแมวและสัตว์ที่กินเนื้อของมันไม่ได้ มูล ปัสสาวะ น้ำลายของมันเป็นนายิส
พี่น้องมุสลิม.! จำเป็นแก่ท่านต้องให้ความสำคัญกับความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน ภายในด้วยการให้เอกภาพต่ออัลอฮ์ บริสุทธ์ใจต่ออัลลอฮ์ในคำพูดและการกระทำ ภายนอกคือ สะอาดจากหะดีษและนายิส เพราะว่าศาสนาของเราเป็นศาสนาของความสะอาด การทำความสะอาดและบริสุทธิ์จากสิ่งสกปรกทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ดังนั้นมุสลิมเป็นผู้ที่สะอาดและติดยึดกับความสะอาด ท่านนบีซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า:
((ความสะอาดเป็นครึ่งหนึ่งของการศรัทธา … ))
โอ้บ่าวของอัลลอฮ์… จำเป็นแก่ท่านต้องให้ความสำคัญในความสะอาด เเละห่างไกลจากนายิส
ท่านนบีซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า: “การลงโทษของหลุมศพส่วนใหญ่มาจากสาเหตุของการปัสสาวะ เพราะคนไม่ระมัดระวัง ดังนั้น เมื่อนายิสมาเปื้อนตัวท่าน จงรีบทำความสะอาดเท่าที่สามารถทำได้ เพื่อท่านจะได้อยู่ในสภาพที่เป็นผู้สะอาดโดยเฉพาะเมื่อท่านต้องการจะละหมาด หาไม่แล้วท่านจะขาดสภาพความสะอาด และ ตอนที่ท่านต้องการเข้ามัสยิด จงดูที่เท้าของท่านเสียก่อน หากมีสิ่งสกปรกก็จงขจัดมันออกและจงทำความสะอาดเสียก่อน อย่าพาเท้าที่มีนายิสเข้าไปในมัสยิด…
ขออัลลอฮ์โปรดให้ความสาเร็จแก่ทุกท่านในสิ่งที่พระองค์รักและพอใจทั้งคำพูดและการกระทำ
- ที่มา: หนังสืออัลมุลัคค็อส อัลฟิกฮี /เชค ซอลิฮ์อัลเฟาซาน