วิธีการอาบน้ำละหมาด

หมวดหมู่ : , ,

·

·

บทเรียนวิชาการอิสลาม ศูนย์อิสลามศึกษามัสยิดดาริสสลาม
ประจำวันเสาร์ที่ 26  ส.ค 2566
บทเรียนวิชาฟิกฮ์ (หมวดอิบาดาต)

อาจารย์ดาวุด  รอมาน

เรื่อง : วิธีการอาบน้ำละหมาด

         หลังจากที่รู้จักเงื่อนไข ฟัรฎูและซุนนะห์ของการน้ำละหมาดท่านจะได้รู้จักวิธีการน้ำละหมาดที่ตรงตามข้อตัดสินของศาสนา ซึ่งเป็นภาคปฏิบัติที่รวมไปด้วยสิ่งฟัรฎู ซุนนะห์ที่เป็นข้อบัญญัติ

  • วิธีการอาบน้ำละหมาด มีดังต่อไปนี้:-

         – ตั้งเจตนาน้ำละหมาดตามบัญญัติศาสนาเพื่อละหมาดหรืออื่นๆ

        – กล่าวบิสมิ้ลลลาฮ์

        – ล้างมือทั้งสองข้างสามครั้ง

        – บ้วนปาก สูดเข้าจมูกสามครั้ง โดยใช้มือซ้ายพ่นออก

        – ล้างหน้าสามครั้ง เขตใบหน้าคือตามแนวตั้งเริ่มตั้งแต่ไรผมจนถึงใต้คาง กรามเป็นกระดูกที่อยู่ต่ำสุดของใบหน้า คางเป็นจุดรวมของกราม เคราเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า วายิบต้องล้างหากว่ามันยาว หากเป็นเคราสั้นและบาง วายิบต้องล้างข้างในและข้างนอก หากหนาวายิบต้องล้างข้างนอกและมีซุนนะห์ให้สางเครา  ส่วนเขตใบหน้าตามแนวขวางคือจากหูข้างหนึ่งถึงหูอีกข้างหนึ่ง และหูเป็นส่วนหนึ่งของศีรษะ จึงจะต้องเช็ดหูด้วยเมื่อเช็ดศีรษะ

        – ล้างมือทั้งสองข้างพร้อมข้อศอกสามครั้ง เขตของมือคือ ตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงต้นแขน จำเป็นต้องขจัดสิ่งที่ติดตามมือทั้งสองก่อนที่จะล้าง ไม่ว่าแป้ง ดิน และสิ่งที่มาย้อมเล็บเพื่อให้นำ้เข้าถึง

        – เช็ดศีรษะทั้งหมดและหูทั้งสองข้างหนึ่งครั้งด้วยน้ำที่ไม่ใช่เหลือมาจากการล้างมือทั้งสอง วิธีคือ เอามือที่เปียกน้ำวางด้านหน้าศีรษะแล้วลากมาจนถึงท้ายทอยแล้วลากกลับไปยังจุดที่เริ่มต้น แล้วเอานิ้วชี้เช็ดหูด้านใน เอาหัวแม่มือเช็ดใบหูด้านนอก

        – ล้างเท้าทั้งสองข้างพร้อมตาตุ่มสามครั้ง ตาตุ่มเป็นกระดูกที่ปูดออกมาที่ปลายแข้ง

        • คนที่แขนขาขาดให้ล้างส่วนที่เหลืออยู่จะเป็นแขนหรือเท้า หากขาดตรงข้อศอกให้ล้างตรงปลายต้นแขน หากขาดที่ตาตุ่มให้ล้างตรงปลายแข้ง ดังที่อัลลอฮ์กล่าวว่า:

((فَاتَّقُوا اللَّهَ مَا اسْتَطَعْتُمْ ))
((จงยำเกรงต่ออัลลอฮ์เท่าที่สามารถ ))

และท่านรอซูล ﷺ‎  กล่าวว่า:

(( إِذَا أَمَرْتُكُمْ بِأَمْرٍ فَأْتُوا مِنْهُ مَا اِسْتَطَعْتُمْ)
((เมื่อฉันใช้พวกท่านในเรื่องใด จงทำเรื่องนั้นให้สุดกำลังความสามารถ ))

         ดังนั้นเมื่อล้างส่วนที่เหลืออยู่อันเป็นฟัรฎูก็เท่ากับว่าเขาได้ทำตามที่เขามีความสามารถ

        • หลังจากน้ำละหมาดตามวิธีดังกล่าวเสร็จแล้ว ให้แหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วอ่านดุอาอ์ตามที่มีรายงานมาจากท่านนบี  ว่า :

))أشْهَدُ أنْ لا إله إِلاَّ اللَّهُ وَحْدَهُ لا شَرِيك لَهُ ، وأشْهَدُ أنَّ مُحَمَّداً عَبْدُهُ وَرَسُولُهُ ، اللَّهُمَّ اجْعَلْنِي مِنَ التَوَّابِينَ ، واجْعَلْني مِنَ المُتَطَهِّرِينَ ، سُبْحانَكَ اللَّهُمَّ وبِحَمْدِكَ ، أشْهَدُ أنْ لا إلهَ إِلاَّ أنْتَ ، أسْتَغْفِرُكَ وأتُوبُ إِلَيْكَ ((

((ฉันขอปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าที่ถูกกราบไหว้อย่างแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆร่วมกับพระองค์ และขอปฏิญาณตนว่าท่านนบีมุฮำมัดเป็นบ่าวและเป็นรอซูลของพระองค์ โอ้อัลลอฮ์ โปรดทำให้ฉันเป็นผู้กลับเนื้อกลับตัวจากความผิดและโปรดทำให้ฉันเป็นผู้ที่สะอาดด้วยเถิด มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ โอ้อัลลอฮ์ด้วยการสรรเสริญเป็นสิทธิของพระองค์ ฉันขอปฏิญาณตนว่าไม่พระเจ้าพระเจ้าที่ถูกกราบไหว้อย่างแท้จริงนอกจากพระองค์ ฉันขออภัยโทษต่อพระองค์และฉันจะกลับสู่พระองค์))

          ความเหมาะสมในการอ่านคำซิเกรและดุอาอ์นี้หลังน้ำละหมาดคือ การน้ำละหมาดเป็นการทำความสะอาดภายนอก ดังนั้นจึงสมควรที่จะกล่าวเพื่อทำความสะอาดภายในใจ ด้วยการให้เตาฮีดและการเตาบะห์ ความสะอาดทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อความสะอาดสองอย่างถูกรวมเข้าด้วยกัน สะอาดภายนอกด้วยการน้ำละหมาดและสะอาดภายในใจด้วยการให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์และการกลับเนื้อกลับตัว จึงเหมาะสมแล้วที่จะเข้าหาอัลลอฮ์ ยืนต่อพระองค์และวอนขอต่อพระองค์

        • ไม่เป็นไรสำหรับการที่ผู้น้ำละหมาดจะเช็ดอวัยวะของการน้ำละหมาดโดยใช้ผ้าหรืออะไรทำนองนี้

  • อาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์

          พึงทราบเถิดพี่น้องมุสลิม!วายิบต้องน้ำละหมาดให้สมบูรณ์แบบโดยการทำให้นำ้เข้าถึงทั่วทุกอวัยวะของการน้ำละหมาดต้องไม่ปล่อยปะ ละเลยให้มีอวัยวะใดที่ไม่ถูกน้ำ

ท่านนบีเห็นชายคนหนึ่งปล่อยให้หลังเท้าไม่ถูกน้ำมีขนาดประมาณเล็บ ท่านจึงกล่าวว่า:

(( ارْجِعْ فَأَحْسِنْ وُضُوءَكَ ))
“ท่านจงกลับไปทำใหม่ จงทำน้ำละหมาดให้ดีเถิด”

          มีรายงานจากภรรยาบางคนของท่านนบีว่า: “ท่านนบีเห็นชายคนหนึ่งที่เท้าเขามีรอยเท่าเหรียญดิรฮัมที่น้ำไม่ทั่วถึง ท่านนบีจึงใช้เขาให้น้ำละหมาดและละหมาดใหม่ ท่านนบี ﷺ‎ กล่าวว่า:

(( وَيْلٌ لِلأَعْقَابِ مِنَ النَّارِ ))
“ความหายนะจงมีแก่ส้นเท้า”

 เพราะว่าสะเพร่าโดยน้ำไม่ทั่วถึงส้นเท้าจึงเป็นเหตุทำให้ต้องถูกลงโทษด้วยไฟนรก

         ท่านนบี ﷺ‎ ได้กล่าวไว้เป็นหะดีษที่บันทึกโดยอิหม่ามอบูดาวูดและท่านอื่นๆว่า:

)) إِنَّهَا لَا تَتِمُّ صَلَاةٌ لِأَحَدٍ حَتَّى  يُسْبِغَ  الْوُضُوءَ كَمَا أَمَرَهُ اللَّهُ تَعَالَى يَغْسِلُ وَجْهَهُ وَيَدَيْهِ إِلَى الْمِرْفَقَيْنِ وَيَمْسَحُ بِرَأْسِهِ وَرِجْلَيْهِ إِلَى  الْكَعْبَيْنِ ((  

“แท้จริงการละหมาดของคนหนึ่งคนใดจะยังไม่สมบูรณ์หรอก นอกจากต้องอาบน้ำละหมาดให้สมบูรณ์ตามที่อัลลอฮ์ใช้ เขาจึงล้างหน้า ล้างมือทั้งสองข้างถึงข้อศอก เช็ดศีรษะและล้างเท้าทั่งสองข้างของเขา”

          พึงทราบเถิดพี่น้องมุสลิมว่า!การอาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์นั้นไม่ได้หมายความว่าต้องเทน้ำรดให้มากๆ แต่หมายถึงการทำให้น้ำทั่วถึงทุกส่วนโดยการลูบน้ำผ่าน ส่วนการราดน้ำมากๆมันคือการฟุ่มเฟือยที่ต้องห้าม ยิ่งไปกว่านั้นการราดน้ำมากๆก็ไม่ได้ทำให้เกิดความสะอาดที่เป็นวายิบด้วยซ้ำ เมื่ออาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์ด้วยการใช้น้ำน้อยๆต่างหากที่เป็นบัญญัติศาสนา

         มีบันทึกในซอฮีห์ทั้งสองว่า:

((أَنَّ النَّبِيَّ  صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ  كَانَ  يَتَوَضَّأُ  بِالْمُدِّ  وَيَغْتَسِلُ  بِالصَّاعِ ))

 ท่านนบีอาบน้ำละหมาดด้วยนำ้หนึ่งมุด(ประมาณ1ลิตร)และอาบน้ำด้วยน้ำห้ามุด(ประมาณ5ลิตร)

      ท่านนบี ﷺ‎ ห้ามใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย

 )) أَنَّ النَّبِيَّ  صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ  مَرَّ  بِسَعْدٍ  وَهُوَ يَتَوَضَّأُ فَقَالَ  مَا هَذَا السَّرَفُ يَا  سَعْدُ  قَالَ أَفِي الْوُضُوءِ سَرَفٌ قَالَ نَعَمْ وَإِنْ كُنْتَ عَلَى نَهْرٍ  جَارٍ  ((

          ท่านนบี ﷺ‎ ผ่านไปที่ท่านซะอ์ขณะที่กำลังอาบน้ำละหมาดอยู่ ท่านนบี : นี่มันคือความฟุ่มเฟือย..?  ท่านซะอ์ : ในการอาบน้ำละหมาดมีฟุ่มเฟือยด้วยหรือ..? ท่านนบี : ใช่แล้ว แม้ว่าท่านจะอยู่ที่ชายแม่น้ำก็ตาม))    บันทึกโดยอะหมัด อิบนุมาญะห์

  • ความฟุ่มเฟือยคือตรงกันข้ามกับการประหยัด

     •ท่านนบี ﷺ‎  ได้แจ้งว่าในประชาชาติของท่านมีผู้ที่เลยเถิดในการทำความสะอาด ท่านได้กล่าวว่า:

((إِنَّ لِلْوُضُوءِ شَيْطَانًا يُقَالُ لَهُ الْوَلَهَانُ فَاتَّقُوا وَسْوَاسَ الْمَاءِ))

 “สำหรับการอาบน้ำละหมาดจะมีชัยฏอนคอยรบกวน มันชื่อวะละฮาน พวกท่านจงระวังการกระซิบกระซาบของน้ำ))

          – การฟุ่มเฟือยในการรดน้ำ จะทำให้น้ำสูญเสียไปโดยไม่มีประโยชน์และยังทำให้เกิดความเสียหายอื่นๆอีก

         – ตั้งใจใช้น้ำมากๆทั้งๆที่น้ำไม่ทั่วถึงอวัยวะของการอาบน้ำละหมาดโดยที่ไม่รู้สึกตัว ทำให้การอาบน้ำละหมาดบกพร่องแล้วไปละหมาดโดยไม่มีน้ำละหมาด

          – กลัวการเลยเถิดในการอิบาดะห์ การอาบน้ำละหมาดเป็นอิบาดะห์ อิบาดะห์ในแบบที่เลิยเถิดถือเป็นที่เสียหาย

            – ความไม่สบายใจเพราะมีเสียงกระซิบกระซาบตอนทำความสะอาดในการรดน้ำ

          • ความดีทั้งหมดคือการตามแบบอย่างของท่านรอซูล ﷺ‎  งานที่เลวร้ายคือการอุตริสิ่งใหม่ ขออัลลอฮ์โปรดประทานความสำเร็จให้แก่ทุคนในสิ่งที่พระองค์รักและพอพระทัยด้วยเถิด

          จำเป็นแก่มุสลิมจะต้องระมัดระวังการอาบน้ำละหมาดและอิบาดะห์ทั้งหมดให้อยู่บนบัญญัติศาสนา โดยต้องไม่สุดโต่งและไม่หย่อนยาน ที่ดีที่สุดคืออยู่บนความพอดี พวกหย่อนยานในอิบาดะห์จะมีแต่ความบกพร่อง พวกสุดโต่งเท่ากับทำเพิ่มสิ่งที่ไม่เป็นบัญญัติศาสนา ส่วนผู้ที่ตามแบบอย่างของท่านนบรซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมในอิบาดะห์คือผู้ที่ทำตามที่สมบูรณ์ที่สุด

           โอ้อัลลอฮ์!โปรดให้เราได้เห็นความจริงเป็นความจริงและให้เราได้ตามความจริงด้วยเถิด ให้เราเห็นเท็จเป็นเท็จและให้เราห่างไกลจากมัน อย่าให้เราเกิดความสับสน หาไม่แล้วเราจะหลงทาง!

จากหนังสือ:อัลมุลัคค็อส อัลฟิกฮี เชค ซอลิฮ์อัลเฟาซาน

อ่านบทความอื่นๆ

ดูตามหมวดหมู่

ดูตามคำค้น

รอมฏอน ละหมาด