บทเรียนวิชาการอิสลาม ศูนย์อิสลามศึกษามัสยิดดาริสสลาม
ประจำวันเสาร์ที่ 11 พ.ย 2566
บทเรียนวิชาฟิกฮ์ (หมวดอิบาดาต)
อาจารย์ดาวุด รอมาน
เรื่อง : สิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาด
ที่ผ่านมาท่านได้รู้จักวิธีการทำให้การอาบน้ำละหมาดสมบูรณ์ทั้งส่วนที่เป็นเงื่อนไข ฟัรฎูและซุนนะห์ ตามที่ท่านนบี ﷺ ได้อธิบายไว้ ต่อมาท่านจึงมีความต้องการที่จะต้องรู้สิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาด เพื่อจะได้ไม่อยู่กับน้ำละหมาดเสีย ที่มันจะส่งผลทำให้อิบาดะห์ใช้ไม้ได้
จงรู้เถิด!น้ำละหมาดมีสิ่งที่ทำให้เสีย เมื่อเสียแล้วจึงจำเป็นต้องทำใหม่เมื่อต้องการทำอะมัลที่มีบัญญัติว่าต้องมีน้ำละหมาด
สิ่งเหล่านีเรียกว่า “นะวากิฎ” สิ่งที่ทำให้เสีย และอีกชื่อหนึ่งคือ “มุบฏิล้าต” มีความหมายเดียวกัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ศาสนาเจาะจงไว้ และเป็นเหตุที่ส่งผลทำให้น้ำละหมาดเสีย เช่นบางทีเกิดจากเหตุที่ทำให้น้ำละหมาดเสียด้วยตัวมันเอง เช่น ปัสสาวะ อุจจาระและทุกสิ่งที่ออกมาจากทั้งสองทาง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดฮะดัสหากว่ามันเกิดขึ้นแล้วคาดว่าจะทำให้เกิดหะดัสได้ เช่น การหมดสติ หรือสติถูกปิดด้วยการนอนนหลับ เป็นลมและเป็นบ้า เพราะการขาดสติจะไม่รู้สึกว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่ามีหะดัสเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายรายละเอียด:
(1) มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกจากทวาร คือ จากทางออกของปัสสาวะและอุจจาระ สิ่งที่ออกมาจากทวาร บางทีเป็นปัสสาวะ อุจจาระ อสุจิ มะซี เลือดเสีย อุจจาระหรือลม
• หากสิ่งที่ออกมาเป็นปัสสาวะหรืออุจจาระ มันทำให้น้ำละหมาดเสียเพราะมีตัวบทหลักฐานและเป็นอิจมาอ์ อัลลอฮ์กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาดว่า:
(( أَوْ جَاءَ أَحَدٌ مِنْكُمْ مِنَ الْغَائِطِ))
(( หรือคนหนึ่งคนใดในพวกท่านมาจากการขับถ่าย))
• หากสิ่งที่ออกมาเป็นอสุจิหรือน้ำหล่อลื่น จะทำให้เสียน้ำละหมาดด้วยหะดีษซอฮีห์ และเป็นมติโดยอิบนุลมุนซิรและคนอื่นๆ
• เช่นเดียวกันที่จะทำให้เสียน้ำละหมาดคือ มีเลือดอิสติฮาเฎาะห์ออกมา คือเลือดเสีย ไม่ใช่เลือดเฮด(ประจำเดือน) เพราะหะดีษของฟาติมะห์ บินติอะบีฮุบัยช์ มีเลือดอิสติฮาเฎาะห์ ท่านนบี จึงกล่าวแก่นางว่า :
(( فتَوَضَّئِي وصَلِّي، فإنَّما هو عِرقٌ))
“เธอจงอาบน้ำละหมาดและจงละหมาดเถิด อันที่จริงมันเป็นเลือดเสีย” [บันทึกโดยอบูดาวูดและดารุกุฏนี และกล่าวว่า: สายรายงายทั้งหมดเชื่อถือได้]
• เช่นเดียวกันที่จะทำให้น้ำละหมาดเสียคือ การผายลม ด้วยหลักฐานหะดีษซอฮีห์และอิจมาอ์ ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า:
((لا يَقْبَلُ اللهُ صَلاةَ أحَدِكُمْ إذَا أحْدَثَ حَتَى يتوضأ))
((อัลลอฮ์จะไม่ตอบรับการละหมาดของคนหนึ่งคนใดในพวกท่านที่มีหะดัษจนกว่าจะได้อาบน้ำละหมาด))
ท่านนบี ﷺ กล่าวกับผู้ที่สงสัยว่ามีการผายลมหรือไม่ว่า :
(( لا يَنْصَرِفْ – حتَّى يَسْمع صَوْتًا أوْ يَجِدَ رِيحًا))
(( อย่าออกจากละหมาดจนกว่าเขาจะได้ยินเสียงผายลมหรือได้กลิ่น))
• ส่วนสิ่งที่ออกมาจากร่างกายแต่ไม่ได้ออกมาจากทวารหนักและทวารเบา เช่น เลือด อาเจียรและเลือดกำเดา เป็นเรื่องที่บรรดานักวิชาการมีความขัดแย้งกันว่าจะทำให้เสียน้ำละหมาดหรือไม่?
มีสองความเห็น ที่มีน้ำหนักคือไม่ทำให้เสียน้ำละหมาด แต่การอาบน้ำละหมาดใหม่ถือเป็นการออกจากข้อขัดแย้งเป็นการดีที่สุด
(2) สิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาดคือหมดสติหรือสติถูกปิดกั้น
การหมดสติจะเกิดจากการเป็นบ้าหรือทำนองนี้ สติถูกปิดกั้นจะเกิดจากการนอน เป็นลมหรือทำนองนี้ ดังนั้นผู้ใดที่หมดสติหรือสติถูกปิดด้วยการนอนจะทำให้น้ำละหมาดเสีย เพราะคาดว่าจะมีหะดัษออกมาโดยที่ไม่รู้สึกตัว ยกเว้นการหลับเล็กน้อยจะไม่ทำให้เสียน้ำละหมาดเพราะบรรดาซอฮาบะห์รอฎิยัลลอฮุอัมฮุมที่มีอาการง่วงนอนในตอนที่กำลังรอละหมาด ส่วนที่เสียน้ำละหมาดคือการนอนที่หลับลึก เป็นการประสานหลักฐานเข้าด้วยกัน
(3) สิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาดคือการกินเนื้ออูฐไม่ว่าจะมากหรือน้อย เพราะมีหะดีษซอฮีห์จากท่านนบี ﷺ แจ้งอย่างชัดเจน ท่านอิหม่ามอะหมัด รอฮิมะฮุลลอฮ์กล่าวว่า:ในเรื่องนี้มีสองหะดีษที่ซอฮีห์จากท่านรอซูลุลลอฮ์ ﷺ ส่วนการกินเนื้อแต่ไม่ใช่เนื้ออูฐ ไม่ทำให้เสียน้ำละหมาด
ยังมีอีกหลายอย่างที่บรรดาปราชญ์มีความเห็นแตกต่างกันว่าจะทำให้เสียน้ำละหมาดหรือไม่ ? อันได้แก่ :-
การสัมผัสอวัยวะเพศ การกระทบกับผู้หญิงโดยมีอารมณ์ทางเพศ การอาบน้ำคนตาย การสิ้นสภาพจากการเป็นอิสลาม
บรรดานักปราชญ์มีความเห็นว่า:ทุกสิ่งเหล่านี้ทำให้เสียน้ำละหมาด
บางท่านกล่าวว่า:ไม่ทำให้เสียน้ำละหมาด
ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องการพิจาราณาและการวินิจฉัย แต่ถ้าหากว่าไปอาบน้ำละหมาดใหม่เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพื่ออกจากข้อขัดแย้ง แน่นนอนว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่า
• ปัญหาสำคัญที่เหลือและเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ ผู้ที่มั่นใจว่ามีความสะอาดต่อมาสงสัยขึ้นมาว่ามีสิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาดเกิดขึ้น เขาจะทำอย่างไร?
มีการยืนยันจากท่านนบีน้ำละหมาด ในหะดีษที่บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม จากท่านอบูฮุรอยเราะห์ รอฏิยัลลอฮุอันฮุ ท่านรอซูลุลลอฮิ ﷺ กล่าวว่า: “
(( إِذَاوجَدَ أحَدُكُمْ في بَطْنِهِ شيئًا، فأشْكَلَ عليه أخَرَجَ منه شيءٌ أمْ لا، فلا يَخْرُجَنَّ مِنَ المَسْجِدِ حتَّى يَسْمع صَوْتًا، أوْ يَجِدَ رِيحًا ((
(( เมื่อคนหนึ่งคนใดในพวกท่านพบว่าในท้องของเขามีสิ่งหนึ่งสิ่งใด แล้วเขาสงสัยว่ามีอะไรออกมาหรือไม่ เขาอย่าออกจากมัสยิด จนกว่าจะได้ยินเสียงหรือได้กลิ่น))
หะดีษนี้และอื่นๆที่มีความหมายเช่นนี้ชี้ว่า มุสลิมที่มั่นใจว่ามีความสะอาดแต่เกิดสงสัยว่าจะเสียน้ำละหมาด ให้ถือว่าเขายังคงมีความสะอาด เพราะเป็นพื้นฐานเดิมและเขามีความมั่นใจ การเกิดสิ่งที่ทำให้เสียน้ำละหมาดถือเป็นสิ่งที่อยู่ในความสงสัย และความสงสัยจะไม่ถูกลบล้างด้วยสิ่งที่มั่นใจ เป็นกฎสำคัญที่ครอบคลุมทุกสิ่ง ที่จะยังอยู่บนรากฐานเดิมจนกว่าจะเกิดความมั่นใจในสิ่งที่ตรงกันข้าม และในทางกลับกันก็เช่นเดียวกัน กล่าวคือ หากมั่นใจว่ามีหะดัษแล้วเกิดสงสัยว่ามีความสะอาด ให้เขาไปอาบนน้ำละหมาด เพราะรากฐานเดิมคือการมีหะดัษ สิ่งที่มั่นใจจะไม่ถูกลบล้างด้วยสิ่งที่สงสัย
พี่น้องมุสลิม!จำเป็นต้องรักษาความสะอาดเพื่อการละหมาด และต้องให้ความสำคัญกับความสะอาด เพราะการละหมาดจะใช้ไม่ได้หากว่าไม่มีความสเอาด เช่นเดียวกันจำเป็นต้องระมัดระวังการกระซิบกระซาบและการครอบงำของชัยฏอน เพราะมันจะทำให้ท่านมโนไปว่าเสียความสะอาดและทำให้ท่านสับสน จงขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ์ให้พ้นจากความเลวร้ายของมัน ไม่ต้องสนใจมัน และจงถามนักวิชาการในสิ่งที่ท่านสงสัยในเรื่องการทำความสะอาด เพื่อท่านจะได้เป็นผู้ที่รู้อย่างชัดแจ้ง จงให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดเสื้อผ้าให้พ้นจากสิ่งสกปรก เพื่อละหมาดของท่านจะได้ถูกต้อง อิบาดะห์เที่ยงตรง เพราะอัลลอฮ์กล่าวว่า:
((إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ التَّوَّابِينَ وَيُحِبُّ الْمُتَطَهِّرِينَ ))
(( แท้จริงพระองค์ทรงรักบรรดาผู้ที่กลับเนื้อกลับตัวและบรรดาผู้ที่สะอาด))
ขอออัลลอฮ์โปรดประทานความสำเร็จให้แก่เราทั้งหมดในเรื่องความรู้ที่ยังประโยชน์และการงานที่ดีด้วยเถิด
ที่มา: จากหนังสือ:อัลมุลัคค็อส อัลฟิกฮี เชค ซอลิฮ์อัลเฟาซาน